.
..
รู้ช้าไปนิดหนึ่ง
ตื่นมาแต่เช้า เช้ากว่าปกติ ที่ตอนนี้ทำตัวไม่ปกติด้วยการตื่นสาย
ตื่นมาแล้ว ไม่นอนต่อ ลงมาอาบน้ำ แล้วเปิดร้าน
พี่ชายลงมาราวๆ 7 โมงเช้า เวลาปกติของพี่ชายเค้า
ทราบเรื่องของสมเด็จพระสังฆราชที่จะทำการเคลื่อนพระศพจากโรงพยาบาลจุฬาฯ
..
.
ตรวจดูข้อมูล
ประตูร้านที่เปิดแล้ว แต่ยังไม่มีลูกค้าคนแรกเข้าร้าน นั่งต้มมาม่ารอเวลากิน
รีบหม่ำแล้วขึ้นมาตรวจหาข้อมูลข่าวสารทางอินเตอร์เน็ต
เป็นข่าวเมื่อวาน ทราบว่ากำหนดการเคลื่อนพระศพออกจากโรงพยาบาลจุฬาฯ ที่เที่ยงวัน
จุดหมายปลายทางอยู่ที่ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร
..
.
บึ่งไปทันที
เมื่อข้อมูลถูกตรวจสอบจนเรียบร้อยแล้ว จึงบอกกับน้องสาวให้ลงมาเปิดร้าน
เกือบจะเก้าโมงเช้าแล้ว ลูกน้องมาหน้าร้านเตรียมจัดสินค้าออกแสดงตามปกติ
เมื่อเห็นดังนั้นจึงบอกกับลูกน้องว่า วันนี้มีธุระเปิดร้านไม่ได้ ให้รอน้องสาวมาเปิดร้าน
..
.
เดินไล่หาปลายแถวจนเกือบท้อ
คำนวนคร่าวๆ ถึงจราจรบนท้องถนนที่อาจติดขัด ตัดสินใจมุดดินเพื่อออกที่สถานนี “สีลม”
จากครั้งที่เพิ่งมาถวายความเคารพองค์สมเด็จพระสังฆราชฉลองพระชัญษา 100 ปี
ทำให้เสียเวลาน้อยมากในการมุ่งตรงไปที่ ตึกวชิรพยาบาน ของโรงพยาบาลจุฬาฯ
นั่นเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีการกระจุกตัวของฝูงชน มีแต่แถวเรียงหนึ่งที่ไม่รู้ว่าปลายแถวอยู่ตรงไหน
เดินไปเรื่อยๆ หักไปหนึ่งโค้ง เดินไปอีก ยาวแบบหาไม่เจอปลายแถว
ชักจะหมดกำลังใจ บอกกับตัวเองว่า หากแถวยาวไปถึงหน้าถนนสีลมจะกลับบ้านตั้งหลักก่อน
ปลายแถวสิ้นสุดที่ตึก วชิรญาณ ไม่ไกลเกินจะส่งให้ตัวเองกลับบ้าน
เมื่อเป็นใจอย่างนี้แล้ว ก็ตั้งหน้าตั้งตาเข้าคิว โดยไม่รู้ว่าเมื่อไรถึงจะได้กราบพระศพ
..
.
เวลาที่รอคอย (กราบพระศพ)
แถวที่เป็นระเบียบ ไม่มีการแทรก หรือแซง ทำให้ไม่เกิดการติดขัด ไหลเรื่อยๆ
คนมาทีหลัง โดยเฉพาะคนมึอายุหน่อย หากพอวิ่งได้ หลายคนวิ่งหน้าตั้งไปหาปลายคิว
นั้นแสดงว่า พวกเขาเหล่านี้น่าจะเป็นพวกที่เคยมาอวยพรวันฉลอง 100 ชัญษา
ไม่นานนัก ชั้นที่6 ที่เป็นที่ประทับของพระศพนั้นปรากฎอยู่ตรงหน้า
ห้ามถ่ายรูป … กฎกติกาที่ถูกละเลยเมื่อคราวก่อน แต่คราวนี้ ตัวเองปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
หน้าห้องกระจก เจ้าหน้าที่คนเดิมๆ กับพานถวายปัจจัยต่างๆ
ไม่มีเวลาให้ก้มกราบพระศพ เดินแล้วยกมือไหว้ ใครทำบุญให้รีบใส่
..
.
เดินวนกลับมาบอกองค์ท่าน
ไหว้ผ่านๆ ในกรณีนี้ ทำให้รู้สึกตนตระหงิดๆ ใจ
เพราะก่อนหน้าที่ตนจะทราบข่าวสิ้นพระชนม์ขององค์ท่านได้ไปที่วัดบวรฯ
เดินซื้อหาเหรียญที่ระลึก 100 ปี ได้เหรียญชินตะกั่วราคา 800 บาท มาหนึ่งเหรียญ
จากนั้นก็เข้าไปที่พระอุโบสถ กราบองค์พระประธาน (พระพุทธสุวรรณเขตและพระพุทธชินสีห์)
ตอนนั้นฝนทำท่าจะตกๆ ฟ้าดูครึ้มๆ ไม่รู้เป็นอะไรเกิดอารมณ์ที่สงบจนอยากนั่งสมาธิ
เวลาตอนนั้นราว 16 นาฬิกา …
นานเท่าไรไม่รู้ แต่สมาธิที่เกิดในตอนนั้นคือ น่าจะผ่านไปราว 1 ชั่วโมงได้
เหตุที่รู้เพราะลักษณะทางกายภาพของตนเวลานั่งสมาธินั้นจะเกิดอาการชาอย่างรุนแรงเมื่อตอนนั่งผ่านไป 1/2 ชั่วโมง
และจะนั่งแทบไม่ได้เมื่อผ่าน 45 นาที จนกระทั่งต้องคลายออกจากสมาธิ
แต่วันนั้น อาการการชาเริ่มจะปรากฎ แต่กลับไม่ปรากฎ เหตุนั้นน่าจะการนั่งที่ถูกท่า
ตอนนั้นองค์แห่งสมาธิดูเหมือนจะนั่งได้ตลอดรุ่ง แต่มีเหตุการณ์ที่ติดค้างใจหลายอย่างถ่วงอยู่
เช่น … กลับบ้านก่อนห้าโมงครึ่งเพราะตัวเองไม่ได้นำกุญแจบ้านมา ไม่ต้องการเดือดร้อนพี่น้องต้องให้ลงมาเปิดประตูให้
หรือ ในพระอุโบสถต้องปิดประตูตามเวลาที่ประกาศไว้เป็นกิจปกติ ฯลฯ
สรุปแล้ว เลยต้องออกจากสมาธินั้นไปเมื่อเวลาราวๆ 17:15
..
.
เพิ่งทราบเวลาสิ้นพระชนม์ของสมเด็จญาณฯ
..
.
.
.
.
.